เข้าใกล้เดือนธันวาคมเข้าไปทุกทีแล้ว
อีกไม่นานก็คงถึงช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัยต่างๆ
แต่ปิดเทอมจะให้อยู่เฉยๆก็คงน่าเบื่อแย่ วันนี้เราเลยอยากชวนเพื่อนๆ
ทุกคนมาปลูกต้นไม้ตัวอวบอ้วนที่ชื่อว่า "แคคตัส"
               
แคคตัส หรือที่เราคุ้นชินกันในชื่อ เจ้ากระบองเพชร
เป็นพืชอวบน้ำที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแปลกตากว่าต้นไม้อื่นๆ
เพราะด้วยหนามอันแหลมคม สีสันที่ฉูดฉาด และลักษณะต้นที่อวบอ้วนจนดูน่าตลก
ทำให้แคคตัสกลายเป็นต้นไม้สุดแนวที่มีเสน่ห์ถูกใจชาวฮิปสเตอร์ทั้งหลาย
ถ้าอยากรู้แล้วว่าแคคตัสจะพิเศษอย่างไร เราไปทำความรู้จักกับแคคตัสพร้อมๆกันเถอะ
6
สายพันธุ์ cactus ยอดฮิต
1.
แอสโตรไฟตัม แอสทีเรียส(Astrophytum)
                สายพันธุ์นี้เรียกสั้นๆว่า ‘แอสโตร’ เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมที่บ้านไหนๆก็ปลูกกัน รูปร่างหน้าตาจะมีลักษณะกลมๆ
อ้วนๆ บางต้นก็จะแบนด้านข้างและมีจุดสีขาวที่ดูเหมือนหิมะปกคลุมอยู่
ที่สำคัญเจ้าแอสโตรจะไม่มีหนามทำให้ดูแล้วน่ารัก น่าสะสม
นักปลูกหน้าใหม่ทั้งหลายจึงมักจะหลงใหลกับความน่ารัก น่าดูแลของแคคตัสสายพันธุ์นี้
ทำให้มันเป็นที่นิยมและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่วัยรุ่นมากเลยล่ะ
              ถ้าเพื่อนๆเคยดูการ์ตูนฉากที่อยู่ในทะเลทรายแล้วล่ะก็
ต้องเคยเห็นแคคตัสรูปร่างหน้าตาแบบนี้แน่นอนค่ะ โอพันเทียหรือชื่อเล่นว่าเสมาทอง
เป็นอีกหนึ่งแคคตัสยอดนิยมของมือใหม่หัดเลี้ยง
เพราะด้วยความน่ารักของตัวต้นที่ดูเหมือนหูมิกกี้เมาส์ และจุดสีขาวที่เป็นตุ่มหนามคล้ายโพลก้าด็อต
ทำให้แคคตัสสายพันธุ์นี้ถูกใจสาวๆนักสะสมแคคตัสหลายๆคน
3. ยิมโนคาไลเซียม มิฮาโนวิชิอี (Gymnocalycium
mihanovichii)
                สายพันธุ์นี้มีดีที่ความสดใสของสีค่ะ
เพราะดอกของเจ้าสายพันธุ์ยิมโนจะมีสีสันสดใส
และมีขนาดใหญ่เหมือนเราปลูกดอกไม้ธรรมดาๆเลยล่ะค่ะ ส่วนของลำต้นจะแข็งแรง
ดอกของแคคตัสสายพันธุ์นี้ก็จะแตกต่างไปตามแต่ละประเภท มีทั้งตูม บาน
และมีทั้งสีเหลือง สีส้ม สีชมพู หลากหลายสีสัน และที่สำคัญที่สุด
แคคตัสในสายพันธุ์นี้สามารถผสมข้ามสายพันธุ์จนทำให้เกิดรูปร่างแปลกๆ ใหม่ๆ
ที่เราสามารถดีไซน์ได้เองอีกด้วย 
4. แมมมิลลาเรีย พลูโมซา (Mammillaria
lumose)
                ถ้าจะต้องเลือกแคคตัสที่เหมาะกับสาวๆ
ก็ขอเลือกสายพันธุ์นี้ให้เป็นอันดับหนึ่งเลยค่ะ เพราะเจ้าแมมมิลลาเรีย
หรือที่เรียกว่าแมมขนนก มีลักษณะที่แตกต่างกว่าแคคตัสสายพันธุ์อื่นๆ
คือลำต้นจะมีขนสีขาวคล้ายปุยนุ่นปกคลุมโดยรอบ ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มฟู
ซึ่งแตกต่างจากแคคตัสที่มีหนามทั่วไป นักปลูกหลายคนจึงชอบในความน่ารัก
น่าถะนุถนอมของแมมขนนก อีกทั้งสายพันธุ์นี้ยังขยันแตกหน่อ
และมักส่งกลิ่นหอมอ่อนๆให้กับคนเลี้ยงอีกด้วย ว้าว ฟินสุดๆไปเลย
               สายพันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เอาใจคนรักแคคตัสประเภทดอกสวยงาม
เพราะดอกของโลบิเวียนั้น บานสวยงามมากจริงๆค่ะ
รูปร่างโดยทั่วไปก็จะไม่ต่างกับแคคตัสสายพันธุ์อื่นๆ
แต่ก้านดอกที่ชูช่อตั้งแต่ยังไม่บานก็สร้างความโดดเด่นให้กับโอบิเวียไม่น้อยเลยล่ะ
ส่วนใหญ่แล้วโอบิเวียจะออกดอกที่มีสีสันสดใสตลอดทั้งปี
และจะออกมาในช่วงหน้าร้อน
จนทำให้สายพันธุ์นี้ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งแคคตัสสายพันธุ์ที่มีดอก ว้าว! สุดยอดไปเลย
6. โอบรีโกเนีย ดีนีกริอี (Obregonia denegrii)
6. โอบรีโกเนีย ดีนีกริอี (Obregonia denegrii)
        อีกหนึ่งแคคตัสสายพันธุ์มีดอกที่มีชื่อเล่นว่า
กลีบกระทงทอง ถ้าเพื่อนๆสงสัยว่าทำไมเขาถึงตั้งชื่อนี้
ก็ลองสังเกตดูที่ลักษณะของลำต้นที่มีรูปร่างเหมือนเอาใบไม้มาเรียงซ้อนกัน
สลับกันเป็นชั้นๆจนถึงยอด รูปทรงจึงดูแข็งแรง สวยงาม แถมยังเลี้ยงง่ายอีกด้วย
            หลายคนอาจคิดว่าแคคตัสเป็นพืชที่ปลูกง่าย
แค่ตากแดดไว้ นานๆค่อยรดน้ำก็ได้แล้ว แต่นั้นเป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ
เพราะจริงๆแล้วการปล่อยแคคตัสตากแดดไว้ทั้งวัน
จะทำให้แคคตัสของเรานั้นเจริญเติบโตช้า มีรูปร่างที่ไม่สวยงาม มีอาการไหม้แดด
และก็อาจจะตายในที่สุด ดังนั้นแล้วแคคตัสพืชอวบน้ำสุดน่ารักนี้
ก็ต้องการการรดน้ำดูแลไม่ต่างจากต้นไม้ต้นอื่นๆเลย 
                แสงแดดเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แคคตัสของเราโตขึ้นอย่างสวยงาม
และมีดอกที่สีสันสดใส โดยแสงแดดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคคตัสคือ
แสงแดดในช่วงครึ่งวันเช้า เพราะเพื่อนๆลองคิดดูนะคะว่าขนาดเราเดินตากแดดเดี๋ยวเดียวตอนกลางวันหน้าเรายังทั้งแสบทั้งร้อนแถมยังหมองคล้ำลงอีกด้วย
แล้วนับประสาอะไรกับแคคตัสที่ต้องทนแดดทนร้อนตลอดทั้งวันใช่ไหมล่ะคะ
ดังนั้นแดดในช่วงเช้าจึงมีอุณหภูมิความร้อนที่เหมาะสมที่สุดที่จะไม่ทำให้ผิวของแคคตัสไหม้กลายเป็นสีน้ำตาลกระดำกระด่าง 
 
            แต่ถ้าหากเพื่อนๆ
คนไหนกังวลว่า แล้วเวลาเราออกจากบ้านไป
เราจะเอาเวลาที่ไหนไปย้ายต้นแคคตัสหนีออกจากแดดร้อนๆตอนกลางวันได้ !! ง่ายนิดเดียวค่ะ
เพื่อนๆควรจัดโซนหรือสร้างบ้านให้กับเจ้าแคคตัส โดยพยายามเลือกมุมที่มีหลังคากรองแสง
หรือติดตั้งสแลน เพื่อให้แคคตัสของเพื่อนๆตั้งอยู่กลางแจ้งได้ทั้งวันอย่างสบายๆ
                เมื่อเราจัดการกับแสงแดดได้แล้ว
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือการรดน้ำ
แคคตัสเป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมากแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ต้องการน้ำเลยนะคะ
เราควรรดน้ำเพื่อให้แคคตัสของเราเจริญเติบโตตามสายพันธุ์
แต่เราก็ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้แคคตัสของเราเน่าและตายในที่สุด
แล้วทีนี้เราจะรู้ได้อย่างกันล่ะว่าน้ำขนาดไหนถึงจะเพียงพอกับแคคตัสของเรา
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสังเกตค่ะ เราควรใช้ฝักบัวรดน้ำในการกะปริมาณ
โดยดูจากน้ำที่ล้นออกมาจากใต้กระถาง
ถ้าเมื่อไหร่ที่มีน้ำล้นออกมาตอนที่เรากำลังค่อยๆรดน้ำ
นั่นหมายความว่าน้ำที่เรารดมีปริมาณที่เพียงพอแล้ว 
อีกหนึ่งทริคง่ายๆที่จะทำให้แคคตัสของเพื่อนๆ สวยงามตามสายพันธุ์คือ
การปล่อยให้หน้าดินของแคคตัสแห้งสนิทแล้วค่อยรดน้ำใหม่ โดยใช้วิธีการสังเกตง่ายๆคือ
การยกกระถางเพื่อดูน้ำหนัก ถ้าแคคตัสมีน้ำหนักเบาแปลว่าดินแห้งสนิทหมดแล้ว
หรือใช้ไม้เสียบลูกชิ้นจิ้มเพื่อดูรอยเปียกจากดิน
ถ้ายังมีรอยติดไม้เสียบอยู่แปลว่าแคคตัสของเพื่อนๆยังไม่พร้อมที่จะรับน้ำครั้งใหม่
การนำวิธีการเหล่านี้ไปทำเป็นประจำไปทุกวันๆ
จะทำให้แคคตัสมีการเจริญเติบโตที่สม่ำเสมอ ออกดอกสวยงามตามแต่ละสายพันธุ์
แถมยังหมดปัญหาเรื่องรากเน่าไปได้อีกด้วย ทีนี้แคคตัสของเพื่อนๆก็จะมีสีสัน
รูปทรงสวยงามเทียบเท่ากับร้านขายแคคตัสดีๆเลยล่ะ
เปลี่ยนต้นไม้ให้กลายเป็นของตกแต่ง
            เมื่อเราได้แคคตัสที่สวยงาม
น่ารักถูกใจแล้ว
เราก็สามารถนำเอาแคคตัสคู่ใจไปประดับตกแต่งตามพื้นที่ในบ้านได้อย่างสนุกสนาน
เพราะด้วยการขนย้ายที่ง่ายดายทำให้แคคตัสกลายเป็นพืชประดับที่นิยมถูกใช้ตกแต่งทั้งร้านค้า
คาเฟ่ ร้านกาแฟ หรือโต๊ะทำงาน เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูสบายๆ
            เราไปดูกันดีกว่าว่าแคคตัส
พืชอวบน้ำสุดน่ารักจะถูกสร้างสรรค์ให้กลายเป็นงาน DIY อะไรได้บ้าง
                แค่ลองเปลี่ยนกระถางก็สร้างความแปลกใหม่ให้กับการตกแต่งได้แล้ว
เพื่อนๆอาจจะลองใช้แก้วใบเล็กๆน่ารักๆมาใช้เป็น กระถางใบใหม่สำหรับแคคตัส
ก็ดูเก๋ไปอีกแบบ
ใช้แต่ไข่อย่างเดียวเดี๋ยวไม่คุ้มพอ เอาลังไข่มาใช้ปลูกกันเลยดีกว่า
ดูสิมีหลายหลุมพอดีเลย
ขวดแชมพูที่ใช้แล้วก็เอามาทำได้นะ
แค่ลองตัดด้านหน้าขวดแล้วผูกฝาติดกับเชือก
แค่นี้ก็ย้ายแคคตัสไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกแล้ว
นอกจากแคคตัสจะสามารถใช้เพื่อตกแต่งประดับตามที่ต่างๆแล้ว
เพื่อนๆก็สามารถสร้างสรรค์ให้แคคตัสกลายเป็นของขวัญสุดพิเศษได้อีกด้วย
วิธีทำก็สุดแสนจะง่ายดาย คือ ให้เพื่อนๆลองนำเอาภาชนะน่ารักๆไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง กระดาษสี
หรือขวดโหลมาย้ายต้น   แคคตัสใส่ลงไป พร้อมทั้งเขียนข้อความในใจสุดน่ารัก
เท่านี้เพื่อนๆก็จะได้ของขวัญที่น่ารัก น่าสะสม และไม่เหมือนใครแล้ว
ที่สำคัญยังนำไปปลูกต่อได้อีกด้วย
เห็นไหมล่ะคะว่าแค่ต้นไม้ต้นเดียวก็สามารถดีไซน์ให้มีประโยชน์ที่หลากหลายได้
ดังนั้นการปลูกแคคตัสจึงเป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกสุดเก๋ที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนรู้จัก
เพราะการปลูกต้นไม้นอกจากจะทำให้โลกมีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นแล้ว
ยังเป็นการฝึกความใจเย็นของผู้ปลูกอีกด้วย
ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะเริ่มลองปลูกแคคตัส
ก็สามารถหาแหล่งซื้อแคคตัสคุณภาพดีได้ที่ ลุยแหล่ง cactus และไม้อวบน้ำ สวย ถูก
ดี ! รับรองว่าเพื่อนๆจะต้องหลงใหลไปกับความน่ารักของแคคตัสอย่างแน่นอน
ปิดเทอมว่างๆแบบนี้
อย่าลืมชวนเพื่อนๆมาปลูกแคคตัสด้วยกันเยอะๆนะคะ
เขียนโดย นางสาวจุลลินี อยู่ญาติวงศ์ 56101010814




















 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น