วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

มาเกาะกระแสเทรนด์สุขภาพที่ "สวนลุมพินิ" แลนมาร์กใหม่ของวัยรุ่น






วันนี้ Trends To Teen ของเราขอนำเสนอสถานที่ที่เป็นดั่งโอเอซิสใจกลางกรุงเทพมหานครให้เพื่อนๆได้ไปสูดอากาศบริสุทธิ์และความร่มรื่นของธรรมชาติกัน ซึ่งที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมนักวิ่งทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติกันเลยทีเดียว จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “สวนลุมพินี” นั่นเอง

สวนลุมพินี เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมต่างๆมากมาย รอบๆสวนลุมพินีมีรถราวิ่งไปมาวุ่นวาย แต่ถ้าลองได้ก้าวเข้ามาในนี้แล้วละก็ รับรองว่าจะพบความสงบที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอย่างแน่นอน




ทางลาดยางยาวสองกิโลเมตร ทอดเป็นทางตัดผ่านต้นไม้มากมายที่รายล้อมอยู่สองข้างทาง ผู้คนวิ่งอยู่บนลู่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย บางคนวิ่งเป็นกลุ่ม วิ่งเป็นคู่ วิ่งคนเดียว หรือว่ามาเป็นครอบครัว




ถ้าวิ่งแล้วแรงยังเหลือเฟือก็มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลายชนิดให้ได้เลือกสรร ทั้งปั่นจักรยาน ซิทอัพ จะ
ออกส่วนแขนอย่างเดียว หรือส่วนขาก็มีหมด ออกกำลังเพลินๆพร้อมกับชมวิวดูผู้คนที่วิ่งผ่าน สร้างบรรยากาศในการออกกำลังกายไปอีกแบบ หรือจะเต้นแอโรบิกขยับแขนขาก็จะได้เพื่อนมาร่วมเต้นกันแบบไม่ต้องอายใคร



สำหรับคนที่วิ่งเหนื่อยๆจนเหงื่อท่วมตัวอยากชำระล้างร่างกาย ไม่ต้องห่วง ที่สวนลุมพินีมีให้บริการห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ จุดรับฝากของกระจายอยู่รอบๆ ทั้งยังมีพนักงานให้บริการด้วย

นอกจากสวนลุมพินีจะเป็นแหล่งรวมนักวิ่งแล้ว ยังเป็นสวรรค์ของเด็กๆ เพราะที่นี่มีของเล่นและเครื่องเล่น ให้ได้วิ่งกันอย่างสนุกสนาน ทั้งสไลเดอร์ ชิงช้า กระบะทรายและบ้านผจญภัย







กิจกรรมของสวนลุมพินียังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล สนามตระกร้อ โรงยิมและฟิตเนสที่เปิดให้บริการทุกวัน
วัยรุ่นที่รักในความท้าทาย หรือผู้ที่ชอบเล่นสเกตบอร์ดก็มักจะมาฝึกซ้อมกันที่สวนลุมพินี เพราะที่นี่มีพื้นที่กว่า 360 ไร่ เหมาะสำหรับการรวมตัวกันทำกิจกรรมของวัยรุ่น



หากทำกิจกรรมจนเหนื่อยและหิว ที่นี่ก็มีร้านบริการอยู่ตามจุดต่างๆ ขายทั้งเครื่องดื่ม ขนม และอาหารว่าง เรียกได้ว่าครบวงจร มาที่นี่ที่เดียวรับรองคุ้ม

หรือถ้าใครไม่อยากมาวิ่ง กิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของสวนลุมพินีเลยก็คือ ปั่นเป็ด ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง แต่ขอแนะนำว่าให้ปั่นฝั่งประตู 1 เพราะตรงนี้แม่น้ำจะกว้างและยาวกว่า แถมวิวยังสวยกว่าอีกด้วย บอกเลยว่าถ้าได้มาปั่นกับคู่รักรับรองว่าโรแมนติกสุดๆ เพราะท้องฟ้า แสงแดด และบรรยากาศตอนเย็นๆสวยจนแทบลืมหายใจกันเลยทีเดียว

   

ความใหญ่ของสวนลุมพินี ทำให้เราอยากจะหยุดปูเสื่อ วางกระเป๋า และล้มตัวลงนอนตรงไหนก็ได้ ผู้ที่มาส่วนใหญ่เลือกส่วนที่ติดริมแม่น้ำ เพราะริมแม่น้ำมีต้นไม้ให้ร่มเงามากมาย ไม่ร้อนแถมยังร่มเย็นอีกด้วย นอนสบายๆแต่ต้องระมัดระวังตัวเงินตัวทองที่เดินเผ่นผ่านด้วยล่ะ ไม่งั้นตื่นขึ้นมาอีกทีอาจจะมีเพื่อนใหม่กลับบ้านก็เป็นได้


ให้อาหารนก อาหารปลาก็เป็นอีกกิจกรรมที่ผ่อนคลาย มีปลามากมายที่พร้อมจะแย่งอาหารจากเรา นอกจากจะทำให้แม่น้ำดูมีชีวิตชีวา ยังทำให้การมาพักผ่อนหย่อนใจมีสีสันด้วย


สวนลุมพินีคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ไม่ใช่แค่กิจกรรม แต่ยังรวมไปถึงความรู้สึก เมื่อเรามองไปที่แม่กำลังสอนลูกปั่นจักรจานสี่ล้อ หรือพ่อมาวิ่งกับลูกชายพร้อมกับคุยเรื่องชีวิตประจำวันไปด้วย เราจะพบความอบอุ่นที่แผ่กระจายอยู่รอบๆ หรือบางคนอาจจะมานั่งริมน้ำทอดอารมณ์ความเหงาให้ลอยไปกับคลื่นน้ำและท้องฟ้า เป็นภาพชินตาที่มักจะเจอได้ที่สวนลุมพินีแห่งนี้






สิ่งที่ทำให้สวนลุมพินีได้รับความนิยมอีกอย่างก็คือ การเดินทางที่สะดวก ไม่ว่าจะรถไฟฟ้า BTS หรือรถไฟใต้ดิน MRT หรือแม้แต่รถเมล์ หากมารถไฟฟ้า BTS สามารถลงได้ที่สถานีศาลาแดง ทางออก 5 ส่วน MRT ลงได้ที่สถานีสีลมทางออก 1  สำหรับใครที่เอารถยนต์ส่วนตัวมาก็มีที่จอดรถฟรี

ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะสวนลุมพินีใส่ใจกับทุกชีวิต มียามคอยปั่นจักรยานตรวจอยู่เสมอ และคอยเฝ้าประจำอยู่ทุกจุด ถ้ามีข้อสงสัยหรือขอความช่วยเหลือสามารถสอบถามได้เลย เพราะพี่ยามที่นี่เป็นกันเองมากๆ



จะเห็นได้ว่ามีวัยรุ่นมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ทำกิจกรรมหลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่การเดินห้างสรรพสินค้าหรือใช้จ่ายไปกับของฟุ่มเฟือย แต่เป็นการหันมาออกกำลังกายเพื่อสุภาพ หลีกหนีจากความวุ่นวายมาเสียเหงื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายแทน


ถ้าใครสนใจอยากจะหาที่วิ่ง หรือที่ทำกิจกรรมหรือที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนลุมพินีเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา                      5.00 – 21.00 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ อย่าลืมคิดถึงสวนลุมพินี มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน คอนเฟิร์ม!!!!!


เขียนโดยนางสาวกัญญาพัชร เวชศิลปคอง 56101010811

แต่งห้องแนว Loft ดิบ เถื่อนอย่างมีสไตล์ตกแต่งได้ไม่ตกเทรนด์





                วันนี้ Trends To Teen จะพาเพื่อนๆไปเกาะกระแสการแต่งห้องนอนสไตล์ Loft กัน ถ้าพูดถึง Loft แล้ว เรามักจะนึกถึงความดิบ ดุดัน เท่ๆแบบเปลือยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสไตล์ที่โดดเด่น จนทำให้ใครๆต่างพากันหลงใหลและชื่นชอบในสไตล์แบบนี้ การตกแต่งห้องหรือบ้านสไตล์ Loft เนี่ยสามารถออกแบบได้อย่างหลากหลาย มีลูกเล่นมากมายที่เราสามารถสร้างได้จากการนำสิ่งของใกล้ตัวมาดัดแปลงเป็นของที่มีชิ้นเดียวในโลก นอกจากจะไม่ซ้ำแบบใครแล้ว ยังเป็นการ DIY ให้เกิดประโยชน์อีกด้วย


                บางคนอาจจะยังมองภาพความเป็น Loft ไม่ชัด ดังนั้นเราจะแบ่งประเภทของ Loft ออกเป็น  4 อย่างด้วยกัน ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ สไตล์แต่ละประเภทสามารถดึงดูดแรงบันดาลใจในการแต่งห้อง ไม่ใช่แค่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตาม แพทเทิร์น แต่เป็นการใส่ความรู้สึกลงไปในของแต่ละอย่าง เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น มันจะทำให้เราเกิดความสนุกสนานในการแต่งห้องอย่างไม่รู้จบ

    การออกแบบห้องสไตล์ Loft


1. Botanic


               เป็นการแต่งห้องที่เหมาะสำหรับคนรักต้นไม้โดยเฉพาะ จุดเด่นสไตล์ Loft คือการนำสิ่งต่างๆมาแขวนบนเพดาน  แน่นอนว่าหากมีต้นไม้เล็กๆน่ารักๆแขวนอยู่ในภาชนะสีใสดูสะอาดตา มันยิ่งเพิ่มบรรยากาศให้เราได้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของธรรมชาติ


               เราผสมผสานต้นไม้ให้เข้ากับทุกสิ่งอย่างภายในบ้าน ต้นไม้สามารถอยู่ได้ทุกที่ จะต้นเล็กหรือใหญ่ อยู่ที่การดีไซน์ของเรา  สไตล์ Loft ไม่ใช่การซื้อของสำเร็จรูปมาตั้งโชว์ แต่มันคือการประดิษฐ์ ดัดแปลงสิ่งที่มีให้แตกต่างไปจากเดิม ต้นไม้เราไม่จำเป็นต้องใส่กระถาง แต่นำหลอดไฟที่ไม่ใช้มาใส่เป็นกระถางหรือการนำโหลแก้วเหลือใช้มาทำสีใหม่ให้กลายเป็นของประดับตกแต่งอีกชิ้นก็ยังได้


2. Industrial


             Industrial เป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมที่สุด ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากการสร้างโรงงานหรือโกดังสมัยก่อน ซึ่งการแต่งห้องแบบนี้มักเน้นสี น้ำตาล ขาว ดำ และเทา ซึ่งเป็นสีที่แทน อิฐ ไม้ ปูน และเหล็กนั่นเอง


               สไตล์ Industrial เป็นการแต่งที่ง่าย ทำได้ไม่ยาก หากมีผนังอิฐขึ้นมาหน่อย ไม่ต้องสี่ด้านก็ได้ เพียงด้านเดียวก็ขับเน้นความดิบให้ออกมาจากก้อนอิฐที่ติดอยู่บนผนังได้แล้ว ยิ่งมีเฟอร์นิเจอร์คู่สี น้ำตาล ขาว ดำ เทา ยิ่งทำให้ห้องดูเท่ ทันสมัย ไม่ตกเทรนด์ แถมยังดูน่าค้นหาอีกด้วย


               ปูนเปลือยและไม้สีเข้ม รวมไปถึงเหล็กก็เป็นสิ่งที่ห้องสไตล์นี้ขาดไม่ได้ เพราะเมื่อสีเหล่านี้มาเรียงตัวอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ใช่แค่ความดิบที่โดดเด่นออกมา แต่ยังแฝงไปด้วยความอบอุ่นและน่าอยู่อาศัย รับรองว่าอยู่ที่ห้องทั้งวันไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอน


3. Nordic


                สไตล์นี้เป็นการตกแต่งที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่กลับมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีที่ใช้เน้นสีขาวเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นผนัง พื้น เพดาน ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับตกแต่งต่างๆจึงเน้นสีดำให้ตัดกับสีขาว หรือจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม โทนของห้องก็จะดูอ่อนโยนขึ้น


                การตกแต่งห้องไม่จำเป็นต้องใช้สีเยอะ เพราะมันจะดูเกลื่อนกลาด กระจัดกระจาย การใช้สี ขาว ดำ น้ำตาล สามสีก็สามารถเอาอยู่แล้ว สำหรับการแต่งสไตล์นี้ ด้วยความอบอุ่นและสบายตาของสีขาว จะทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งสบายมากขึ้น อีกทั้งสีดำและน้ำตาลยังช่วยตัด ทำให้ห้องไม่ดูเรียบจนเกินไป เป็นการตกแต่งจากสิ่งที่ธรรมดา ให้ดูมีเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำแบบใคร

4. Artisan


               ถ้า Industrial เป็นความดิบเถื่อนแบบผู้ชาย Artisan ก็เป็นความห้าวแบบผู้หญิง สไตล์นี้จะออกแนวหวานๆ แต่เป็นหวานแบบห้าวๆ แน่นอนว่าห้องต้องไม่ใช่ผนังสีชมพู  ผนังหรือพื้นควรจะเป็นไม้ จะสีอ่อน สีเข้มก็สามารถใช้ได้หมด ส่วนเฟอร์นิเจอร์หากใช้ไม้สีอ่อนๆกับสีที่ไม่ฉูดฉาด เน้นโทนสีอ่อนมากกว่า การใช้สีแบบซอฟต์ๆทำให้ห้องดูละมุน ไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่ากัน




              ด้วยสีที่หลากหลายกว่าแบบอื่นๆ แต่ยังคงความอ่อนโยน ทำให้ห้องมีความรู้สึกอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความรัก ดูเป็นธรรมชาติ และมีสไตล์ไปอีกแบบ

 

              และนี่ก็คือประเภทต่างๆของสไตล์ Loft ที่จะทำให้การแต่งห้องไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพื่อนๆลองออกแบบสไตล์ที่ตัวเองชอบดูว่าเราจะเป็นแนวดิบเถื่อนหรือจะหวานแบบห้าวๆ หรือจะดูอบอุ่นสบายตา หรือจะเต็มไปด้วยธรรมชาติ การตกแต่งบ้านก็เหมือนกับการแต่งตัว เราต้องเลือกสรรสิ่งที่สามารถเข้ากัน ให้มาอยู่รวมกัน หากทุกอย่างผสมกลมกลืนกันได้อย่าลงตัว จะทำให้ผลงานของเราดูโดดเด่นและมีสไตล์เป็นของตัวเองอย่างแน่นอน


    5 Item ที่ควรมีในการตกแต่งห้องสไตล์ Loft

               หลังจากมองภาพรวม และรู้สไตล์การตกแต่งแนว Loft กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะเลือกหาสิ่งที่จะมาเติมเต็มความดิบเถื่อนในตัวคุณกันแล้ว ซึ่งเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์การตกแต่งห้องที่เราจะมานำเสนอเพื่อให้เพื่อนๆตกเทรนด์นั่นก็คือ


ผนังอิฐ

               ถือเป็นส่วนที่เด่นและสำคัญที่สุดของสไตล์ Loft เลยทีเดียว ไม่มีอิฐก็คงจะไม่ดิบเถื่อนสมใจ และคงจะเหมือนกับการแต่งห้องทั่วไปที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ซึ่งผนังอิฐก็มีให้เลือกหลายสี อยู่ที่เราชอบแบบไหนและอยากให้ห้องออกมามีความรู้สึกอย่างไร

  


ชั้นวางของที่ทำจากไม้หรือเหล็ก
               ชั้นวางของเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ขาดไม่ได้ไม่ว่าจะตกแต่งสไตล์ไหน แต่สไตล์ Loft เน้นความเป็นไม้และเหล็ก ไม่ว่าจะสีเข้มหรือสีขาวก็สามารถนำมาใช้กับสไตล์นี้ได้





โซฟาประจำห้อง
               โซฟาคือสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเอนกายสบายๆเวลาอยู่ห้องเราไม่สามารถจะนอนที่เตียงทั้งวันทั้งคืนได้ ดังนั้นโซฟาจะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เราได้สร้างมุมโปรดภายในห้อง ไม่จำเจและซ้ำซากแน่นอน

แจกันและกระถางต้นไม้
                สำหรับคนที่รักธรรมชาติแล้ว ไม่ปล่อยให้ห้องขาดสีเขียวของต้นไม้ไปอย่างแน่นอน เพราะนอกจากต้นไม้จะทำให้ผ่อนคลายสบายตาแล้ว ยังทำให้ความดิบเถื่อนถูกลดทอนไม่ให้ดุดันจนเกินไปด้วย


 




โต๊ะไม้
               โต๊ะอเนกประสงค์ที่ทำได้ทุกอย่างตั้งแต่ทำงาน ทำการบ้าน นั่งกินข้าว วางของ  เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยเพิ่มการตกแต่งบ้านให้ดูไม่ธรรมดา แต่ยังเน้นไม้หรือสีขาว ดำ เทา น้ำตาลเหมือนเดิมตามสไตล์ Loft


                   การตกแต่งห้องสไตล์ Loft ไม่ใช่เรื่องยาก ใครๆก็สามารถทำได้ ลองมิกซ์แอนด์แมทซ์สิ่งที่มีหรือหาของที่เป็นสไตล์ Loft มาแต่งห้องดู ถ้าวันหยุดนี้ไม่รู้จะทำอะไร การออกแบบห้องก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำให้เราได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แถมยังได้ห้องในแบบที่ตัวเองชอบอีกด้วย ห้องแนว Loft ดิบเถื่อนไม่ซ้ำแบบใคร รับประกันความทันสมัย ไม่มีตกเทรนด์อย่างแน่นอน 







เขียนโดยนางสาวกัญญาพัชร เวชศิลปคอง 56101010811

เที่ยวคนเดียวฉบับมือฉมัง ไปแบบไม่ง้อใครยังไงให้เซฟแอนด์ฟัน




            ข้าใกล้เทศกาลปีใหม่เข้าไปทุกที หลายคนคงกำลังนับถอยหลังรอวันหยุดและวางแผนจะไปฉลองปีใหม่กัน คนอื่นอาจอยากไปเป็นคู่ไปกับเพื่อน แต่ถ้าอยากบุกเดี่ยวไปเที่ยวแบบไม่ง้อใครตามสไตล์วัยรุ่นพันธุ์ใหม่แล้วล่ะก็มาทางนี้ เราเตรียมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการไปเที่ยวคนเดียวมาฝาก เผื่อว่าจะลองอยากเปลี่ยนบรรยากาศออกไปแฮฟฟันแบบชิลล์ๆด้วยตัวเองดู แล้วจะรู้ว่ามันสนุกกว่าที่คิด

            ก่อนอื่นเลยอยากบอกกับนักเที่ยวมือใหม่ก่อนว่า การไปเที่ยวคนเดียวกับไปเที่ยวเพื่อนๆมันให้ฟีลคแบบเลย ไปกับเพื่อนก็จะได้อารมณ์สนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้กันไป แต่การไปเที่ยวคนเดียวมันจะให้เราได้หลายอารมณ์มากๆ ช่วงแรกอาจจะเหงาหน่อย แต่ไม่นานหรอกก็จะรู้สึกสนุกไปเอง ได้เจอคนหลากหลายแบบ และมันยังทำให้เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อยากทำอะไรก็ได้ไม่ต้องรอใคร และหลังจากจบทริปเที่ยวคนเดียวแล้วเราจะรู้สึกรักตัวเองมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยล่ะ

 

            อย่างที่บอกไปว่าการไปเที่ยวคนเดียวมันจะทำให้เราได้รู้สึกสนุกกับชีวิตตัวเองมากขึ้น แต่ก็มีหลายเรื่องที่เราควรเตรียมให้พร้อมก่อนออกเดินทางไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเดินทาง การจัดกระเป๋า และการดูแลตัวเองให้เที่ยวได้สนุกและปลอดภัย

วางแผนเที่ยวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
 
            จะไปเที่ยวคนเดียวทั้งทีก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมกันหน่อย เพราะเราต้องพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีเพื่อนร่วมทางคอยช่วยถามคอยเตือน การวางแผนท่องเที่ยวก็เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้เรามีจุดหมาย มีแผนการในชีวิต และยังช่วยให้เราปลอดภัยได้ด้วย

สำรวจตัวเอง

            เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะไปเที่ยวคนเดียวแน่นอน คำถามต่อมาคือ จะไปที่ไหน ในประเทศหรือต่างประเทศ ถ้าไปต่างประเทศประเทศแถบไหน ลองลิสต์รายชื่อสถานที่ๆ อยากไปดูก่อน และต้องไม่ลืมที่จะวางงบประมาณให้ตัวเองด้วย ไม่งั้นงบบานแน่
            ถ้าอยากเดินทางไปต่างประเทศแต่ยังไม่รู้จะเดินทางไปประเทศไหนดี ลองเลือกประเทศใกล้บ้านเราและไม่ต้องขอวีซ่าเพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการดูก็ได้ 29 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า

หาข้อมูลให้พร้อม

            หาข้อมูลสถานที่ๆเราตัดสินใจจะไป ดูให้ครบทุกอย่างว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าสนใจบ้าง สภาพอากาศเป็นยังไง สภาพบ้านเมืองเป็นยังไงบ้าง จะไปแต่ละที่ต้องไปยังไง และจะไปเที่ยวที่นั่นต้องไปยังไง เริ่มจากจุดไหน และต้องไม่ลืมหาข้อมูลการเดินทางและที่พักด้วย

กำหนดวันและเวลา
            การกำหนดวันและเวลาที่จะไปและกลับเป็นสิ่งสำคัญ ลองเช็คเรื่องเวลาการเดินทางด้วยว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เดินทางจากบ้านถึงที่นั่นใช้เวลากี่ชั่วโมง เพื่อให้เราวางแผนการท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น

ทำพาสปอร์ตและวีซ่าให้เรียบร้อย
            ถ้าหากตัดสินใจแล้วว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศ สิ่งสำคัญก็คือพาสปอร์ต สามารถไปทำได้ที่สถานที่ๆเขาจัดไว้ให้ และเราควรศึกษาด้วยว่าประเทศที่เราจะไปต้องใช้วีซ่าในการขอเข้าประเทศหรือไม่ ถ้า ใช่ ก็ต้องดำเนินการเรื่องวีซ่าด้วย เตรียมเอกสารให้พร้อม ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตประเทศนั้นๆ

การเดินทาง

            เราจะเดินทางไปได้อย่างไร จะขับรถไปเที่ยวเอง นั่งรถโดยสาร ลงเรือ นั่งรถไฟ และนั่งเครื่องบิน เราควรใช้เส้นทางการเดินทางที่สะดวกที่สุด เพราะต้องคำนึงด้วยว่าเราไปคนเดียว ถ้าหากอยากแอดเวนเจอร์ก็ต้องไม่ลืมหาคู่มือการเดินทางดีๆไว้สักเล่มติดตัวด้วย

            ไม่เพียงแค่การเดินทางจากจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการเดินทางหลังจากไปถึงด้วย ถ้าใครไปเที่ยวในประเทศก็อาจจะง่ายหน่อย ใช้ภาษาไทยสื่อสารกัน แต่ถ้าจะไปต่างประเทศ เราควรเตรียมจองรถ จองบัตร ซื้อบัตรโดยสารสาธารณะไว้ให้พร้อมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น

ที่พัก
            เรื่องที่พัก ถ้าหากเราอยากได้ความสบายๆ ไม่หรูหรามาก พอนอนได้ ควรหาโรงแรมที่ไม่แพงมาก แต่ดูดี ปลอดภัย อยู่ในย่านชุมชน แล้วเก็บเงินค่าที่พักมาใช้เที่ยวเล่นจะคุ้มกว่า หรือถ้าหากอยากได้โรงแรมที่ราคาไม่แพง ก็สามารถจองไว้ล่วงหน้าได้ โดยอาจหาจากเว็บไซต์จองที่เทียบราคาโรงแรมได้

เงินตราและการจัดการ Internet

            ในกรณีที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ควรดูเรื่องค่าเงินให้ดี แลกเงินมาให้เพียงพอ การใช้อินเทอร์เน็ตก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพื่อให้เราสามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ อัพโหลดรูปเก็บไว้ได้ ซึ่งก็มีหลายวิธีที่สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นการ Roaming (เหมาะกับนักธุรกิจมากกว่า เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง), การเช่าเครื่องพ็อคเก็ต Wifi เหมาะสำหรับเดินทางหลายประเทศ, ซื้อซิมท้องถิ่น และหา Wifi เอาดาบหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและไม่เปลืองเงินด้วย  

            การวางแผนเดินทางจะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น เพราะเราจะได้ทำตามแผนที่วางไว้ และยังเป็นหลักฐานชั้นดีในบางกรณีด้วย เพื่อให้คนอื่นรู้ว่าเราคือนักท่องเที่ยว หลังจากวางแผนการเดินทางและจองเรื่องการเดินทาง ที่พักเสร็จสรรพแล้ว ก็ถึงเวลาจัดกระเป๋าเดินทาง สำหรับคนที่ต้องเดินทางคนเดียว ก็ต้องเตรียมให้พร้อมเข้าไว้ เรามาดูกันดีกว่าว่านักเดินทางมือโปรเขาจัดกระเป๋ายังไงบ้าง

แพ็คกระเป๋าเที่ยวสบายๆแบบฉบับนักเดินทางมือโปร
  • เอกสารสำคัญเก็บให้ดี อย่าให้หาย
            เอกสารสำคัญ ทั้งเรื่องการเดินทาง วีซ่า พาสปอร์ตต้องเก็บให้ดี ก็อปปี้เก็บไว้หลายๆ
  • เลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับสถานที่


            เลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับสถานที่ที่จะไป ควรดูเรื่องสภาพอากาศด้วยว่าอากาศที่นั่นเป็นยังไงบ้าง ฤดูอะไร เตรียมให้พร้อมและให้ครบ ถ้าจะไปเที่ยวทะเลควรเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วย เผื่ออดใจไม่ไหว
  • ม้วนไม่ใช่พับ


            การจัดกระเป๋าที่ดีควรใช้วิธีการม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าให้เราใส่ได้มากขึ้นแล้ว ยังทำให้เสื้อผ้าไม่ยับด้วย
  • เครื่องประดับใส่กล่องไว้
            ถ้าหากมีเครื่องประดับ แนะนำให้หากล่องเล็กๆใส่ เพื่อไม่ให้หล่นหาย ใช้กล่องยาเล็กๆใส่ไว้ก็ได้
  • เต้าเสียบแบบ International 

            ถ้าจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ควรเตรียมเต้าเสียบไว้ให้พร้อม เพื่อไม่ให้ต้องวิ่งวุ่นหาให้เสียเวลา สามารถซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียนหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป
  • ยัดถุงเท้าไว้ในรองเท้า
            ควรยัดถุงเท้าไว้ในรองเท้าไว้เลย เพื่อป้องกันการหล่นหายและประหยัดเนื้อที่ได้ด้วย ส่วนรองเท้าถ้าหากมีราคาสูงควรใส่กล่องไป หรือใส่ถุงเก็บรองเท้า
  • เตรียมอุปกรณ์ส่วนตัวที่ต้องใช้


            แปรงฟัน ยาสีฟัน แชมพู โฟมล้างหน้า ครีมทาผิว ถ้าหากมีลักษณะเป็นน้ำหรือครีม ควรใช้ wrap สำหรับห่ออาหารห่ออีกครั้งหนึ่งเพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะเสื้อผ้า ส่วนสาวๆก็ต้องไม่ลืมพกผ้าอนามัยติดตัวไว้ด้วย ถ้าหากในช่วงนั้นรอบเดือนยังไม่มา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
  • ถุงพลาสติกสำคัญเท่าชีวิต

  • ควรมีกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าใส่ของติดตัวเสมอ


            นอกจากจะต้องมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าแล้ว ควรมีกระเป๋าเป้ติดตัวไว้อยู่เสมอ เพื่อใส่เงิน เอกสารสำคัญ ของใช้ส่วนตัว ส่วนแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) ถ้าหากต้องเดินทางโดยเครื่องบิน ไม่สามารถโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องได้ ให้นำติดตัวขึ้นเครื่องไป แต่ต้องมีขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh เท่านั้น

            การจัดกระเป๋าเดินทางให้พร้อมเป็นเรื่องสำคัญในการเดินทาง ยิ่งใส่น้อยก็ยิ่งเหนื่อยน้อย เพราะเราต้องถือคนเดียว เพราะฉะนั้นขนาดของกระเป๋าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เราจึงควรดูขนาดกระเป๋าให้เข้ากับขนาดตัวเราด้วย

            หลายคนอาจกลัวเรื่องความไม่ปลอดภัยในการเดินทางคนเดียว โดยเฉพาะผู้หญิงที่วางแผนจะเดินทางคนเดียวก็ยิ่งต้องระมัดระวัง Safety First จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักเดินทางทุกคนควรใส่ใจ

เคล็ดไม่ลับให้เที่ยวคนเดียวก็ safe ได้
 

  • หาที่พัก การเดินทางที่ปลอดภัย อยู่ในย่านชุมชน เป็นที่นิยม อาจจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงหน่อยแต่ก็คุ้มค่าถ้าปลอดภัย
  • ถ้าจะออกไปเดินเที่ยวคนเดียวตอนกลางคืน ควรทิ้งโน้ตไว้ในห้อง และไม่ลืมที่จะบอกคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทไว้ก่อน
  • รายงานตัวอยู่เสมอ ห้ามขาดการติดต่อเป็นอันขาด 
  • อย่าเมาและนอนหลับให้เพียงพอ คนที่จะเดินทางคนเดียวควรตระหนักไว้เสมอว่าเราต้องพึ่งพาตัวเอง เพราะฉะนั้นควรดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้ดี
  • เก็บเอกสารและเงินสำรองไว้หลายๆที่เพื่อความปลอดภัย
  • พยายามอยู่ในที่ๆมีคนพลุกพล่านอยู่เสมอ อย่าไปในสถานที่เปลี่ยวเด็ดขาด

            การวางแผนท่องเที่ยว การจัดกระเป๋าและการเที่ยวอย่างปลอดภัยที่เราเตรียมมาให้นี้ล้วนเป็นเรื่องที่คนที่จะเดินทางควรให้ความสำคัญ และใช้ได้ทั้งกับการไปเที่ยวในและต่างประเทศ เพื่อให้เราสามารถสนุกกับชีวิตได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงต่างๆ การออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองมันอาจกลายเป็นเรื่องสนุกและแปลกใหม่ของชีวิตเรา และเราจะหลงรักการท่องเที่ยวคนเดียวไปโดยที่ไม่รู้ตัว

เขียน : วรากร เพชรเยียน 56101010831